วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2561

วิเคราะห์ นวนิยายเรื่อง ซอยเดียวกัน



วิเคราะห์วิจารณ์หนังสือรวมเรื่องสั้นชุดซอยเดียวกัน

รางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๗

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


                                      ผู้แต่ง วาณิช จรุงกิจอนันต์

ที่มา....
     ซอยเดียวกัน เป็นหนังสือประเภทรวมเรื่องสั้น ของวาณิช จรุงกิจอนันต์ ซึ่งคณะกรรมการตัดสินราวัลวรรณกรรมสร้างรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซี่ยน มีมติเป็นเอกฉันท์ให้หนังสือรวมเรื่องสั้นชุดซอยเดียวกัน  ไดรับรางวัลวรรณกรรมยอดเยี่ยมแห่งอาเซี่ยน (ซีไรต์) ประเทศไทย ประจำปี พ.ศ.๒๔๒๗ สำหรับชื่อ "ซอยเดียวกัน" มีที่มาจากส่วนหนึ่งของเรื่องสั้น "บ้านเราอญู่ในซอยนี้... ซอยเดียวกัน " ซึ่งว่าณิช จรุงกิจอนันต์กล่าถึงที่มาในคำนำผู้เขียน่า "เหตุผลที่ตัดมาเพียงสามคำหลัง เพราะชื่อเต็มว่า ้านเาอยู่ในนี้...ซอยเดียวกัน นั้นก็ยาวเกินไป ผมชอบคำว่าซอยมากนักหนา ชื่อซอยเดียวกัน ฟังดูกันเองดี และดูจะน่าฟังกว่าชื่อเรื่องสั้นอื่นๆ ที่รวมอยู่ในเล่มนี้โดยเฉพาะน่าฟังกว่า ครกกับสาก"
 หนังสือรวมเรื่องสั้นชุดซอยเดียวกัน ประกอบด้วยเรื่องสั้นทั้งหมด ๑๔ เรื่อง คือ เพลใบไม้ เมืองหลวง ที่นี่...มหาวิทยาลัย ผาติกรรม กา โนรี ๑๒๕ ผี...และมวลชนผู้ทุกข์ยาก บ้านเราอยู่ในนี้...ซอยเดียวกัน สี่สิบห้าบาท ครกกับสาก ซ้ายล่าสุด เวลานัด ชิมิแกนเทสต์ ภาพเขียนที่หายไป ซึ่งในที่นี้ดิฉันนำเรื่องบ้านเราอยู่ในนี้...ซอยเดียวกัน มาวิเคราะห์ิจารย์เพราะมีความเห็นว่าเป็นเรื่องที่โดดเด่นที่สุดในหนังสือรวมเรื่องสั้นชุดนี้ 

เรื่องย่อ...
      เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซอยแห่งหนึ่ง ที่เหมือนกับซอยอื่น ๆ คือมีจิ๊กโก๋เจี๊ยวจ๊าวประจำซอย มีพวกเกเรสัพเพเหระที่เอาแต่นั่งร้านกาแฟ ไม่แค่นั้นซอยนี้ยังมีทั้งผู้ค้า ผู้เสพครบครัน อีกทั้งยังมีสารพัดผู้ชำนาญวิชาชีพโจร ซอยนี้จะน่ากลัวและเปลี่ยวมากในตอนกลางคืน  เขากับพี่ชายมาเช่าบ้านในซอยนี้อยู่กัน เขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้าย เขามานั่งรอรถเมล์ที่ปากซอยเป็นประจำ จนวันหนึ่งเขาได้พบกับเธอ ทั้งที่สองปีก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอ เขานั่งมองเธอจนรถเมล์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งรับเธอไป หลังจากนั้นเขาก็คอยติดตามเธอตลอด คอยสังเกตว่าเธอจะออกจากบ้านกี่โมง กลับกี่โมง เธอชอบถือผ้าเช็ดหน้าสีขาวเป็นประจำทุกวัน จนวันหนึ่งเขารวบรวมความกล้าทักเธอว่า “วันนี้ลมแรงนะครับ”วันนั้นทั้งวันเขาไม่เป็นอันเรียน เพราะก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะขึ้นรถไปเธอหันมายิ้มให้กับเขา วันนั้นเขารีบกลับบ้านมารอเธอที่ป้ายรถเมล์ แต่ก็ไม่พบเธอ เลยคิดไปว่า เธอคงกลับดึก ตอนเช้าระหว่างที่เดินไปรอรถเขาเจอผ้าเช็ดหน้าสีขาว เขาจำได้แม่นยำว่าเป็นของเธอแน่นอน เขาเก็บผ้าเช็ดหน้าเอาไว้ คิดว่าจะได้คืนเธอและหาเรื่องคุย แต่ก็ไม่พบเธออีกจนเย็นวันนั้นเขากลับมาจากมหาวิทยาลัย เห็นรถตำรวจขับเข้าไปในซอยกับรถร่วมกตัญญู เขาคิดว่าคงเป็นวัยรุ่นตีกันตายอีกตามเคย แต่เมื่อเขาเดินผ่านมีเสียงคุยกันว่าเป็นผู้หญิง ทำให้เขาต้องแทรกวงล้อมนั้นเข้าไปเพื่อขอดูศพ และเขาก็ได้รู้จักเธอสักที แต่เป็นการรู้จักจากหน้าหนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับ   

วิเคราะห์วิจารย์นวนิยายซอยเดียวกัน
แก่นเรื่อง...
    เรื่องสั้นเรื่องนี้มุ่งเสนอแก่นเรื่องหลักคือโอกาสและการไขว่คว้าโอกาส ซึ่งเห็นได้ว่าก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเสียชีวิต  เขามีโอกาสมากมายที่จะเข้าไปทักทายทำความรู้จัก แต่เขากลับปล่อยให้โอกาสนั้นลอยผ่านหน้าไป การนำเสนอเรื่องราวเช่นนี้ตรงกับเจตนารมณ์ที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอแก่นเรื่อง

ตัวละคร...
     ตัวละครที่สำคัญมี 2 ตัวละคร  คือ   ตัวละครหลักที่ทำให้เรื่องสั้นเรื่องนี้ดำเนินไปได้นั้นก็คือ 

ชายผู้เหล่าเรื่อง  และหญิงสาว นักศึกษา โดยสามารถสามารถวิเคราะห์ลักษณะ นิสัยของ

ตัวละครทั้งสองตัวนี้ได้จาก  พฤติกรรม ดังนี้ ชายผู้เล่าเรื่อง ตัวละครตัวนี้ถูกสร้างขึ้นให้มี

ลักษณะเป็นคนอาจไม่กล้าพูดกล้าคุย จึงก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาไม่กล้าที่จะเข้าไป

ทำความรู้จักกับผู้หญิงคนนั้น เป็นการแสดงให้เห็นถึงลักษณะนิสัย  ของตัวละครว่าไม่มี

ความกล้าหาญ

        หญิงสาวนักศึกษา ตัวละครนี้ถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีบทพูดผู้อ่านจะรู้จักตัวละครหญิงสาวผ่านชายผู้

เล่ารื่องเท่านั้น ซึ่งจากบทบรรยายขงชายผู้เล่าเรื่องเท่านั้น ซึ่งจากบทบรรยายก็ทำให้มองเห็นว่า ตัว

ละครหญิงสาวนักศึษาเป็นคนที่มีบุคลิกภาพ เรียบร้อยทั้งการแต่งกายและกริยา 


บทสนทนา...

   " เธอมาแล้ว เดินมาแล้ว กำลังจะลงสะพานไม้มาแล้ว มือขวาถือหนังสือแนบอกพร้อมด้วยกระเป๋าสี

ดำใบเล็กๆ ผ้าเช็ดหน้าสีขาวอยู่ในมือซ้าย เธอลงสะพานไม้มาแล้ว...เดินตรงมาที่ผมแล้ว...เธอเดินผ่าน

ไปแล้ว ปากผมไม่ได้ขยับเลย" (บ้านเราอยู่ในซอยเดียวกัน ๒๐๐๘-๒๐๑)


ฉาก...

    ฉากในนวนิยายเรื่องซอยเดียวกัน

ซอย" เป็นฉากที่เห็นเด่นชัดที่สุดของเรื่องสั้นเรื่องนี้ ซึ่งผู้เขียนได้บรรยายลักษณะของซอยใน

กรุงเทพธนบุรีกว่าห้าหมื่นหกพันซอยได้อย่างชัดเจน และตรงกับความเป็นจริง คือ เป็นซอยเปลียว มี

พวกจิ๊กโก๋ ประจำซอย ทำให้เมื่อเราอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ แล้วจะมีความเชื่อเป็นเรื่องจริง ไม่ได้เป็นฉากที่

ไกลตัว ดังปรากฏในตัวอย่างต่อไปนี้ 

บ้านผมอยู่ในซอยเหมือนอีกห้าหมื่นหกพันซอย ในกรุงเทพธนบุรีที่จอแจและคับแคบ( หน้า ๑๙๑)

และสภาพของซอยนี้จะเปลี่ยวในตอนกลางคืน และจะไม่ค่อยมีผู้หญิงมากล้าเดิน ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 

"ซอยอันจ้อกแจ้กในตอนกลางวันนี้ จะเปลี่ยนเป็นเปลี่ยวอย่างน่ากลัวในตอนกลางคืน เพราะมีเพียงช่วง

แรกเท่านั้น ที่เป็นตกแถวที่มีร้านค้า เมื่อพ้นสะพานไม้ข้ามคูไปแล้ว ก็จะเป็นบ้านคนสลับกับพงหญ้ารก

และมีที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นบ้านอยู่ระเกะระกะทั่วไปซอยนี้เป็นแหล่งสลัมใหญ่อีกแห่ง

หนึ่งของกรุงเทพฯ" (หน้า ๑๙๓)


ลีลาท่าทีของผู้แต่งและการใช้ภาษา

สะท้อนการแต่งกาย

   เธอแต่งตัวเรียบร้อย เสื่อนักศึกษาขาวสะอาดรีดเรียบร้อย กระโปรงแคบๆสีน้ำเงินยาวถึงหัวเข่ามือขวา

ประคองหนังสือแนบลำตัว มือซ้ายถือผ้าเช็ดหน้าสีขาว (หน้า ๑๗๕)

สะท้อนกริยาท่าทาง

   รวมทั้งจิ๊กโก๋ประจำตรอกที่ตะโกนอย่างไม่เกรงใจว่า คนสวยมาแล้ว เมื่อเห็นเธอเดินผ่าน บางทีก็มีคำ

พูดที่ผมไม่ต้องการจะได้ยินตามมา แต่เธอก็นิ่งและสงบไม่เคยเหลียวมองและไม่เคยเปลี่ยนสีหน้า 

(หน้า ๑๘๐)


คุณค่าที่ได้รับจากนวนิยายเรื่องนี้...

   คุณค่าด้านวรรณศิลป์  เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ใช้คำได้ไพเราะ สละสลวย และประณีต

สวยงาม อีกทั้งยังมีการเล่นเสียงเล่นคำ ที่ผู้เขียนนั้นได้เลือกสรรมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้อ่านนั้น

เข้าถึงอารมณ์และสิ่งที่ต้องสื่อในผลงาน เพราะเรื่องสั้นภายในแบ่งออกเป็น ๑๔ เรื่องย่อย การ

เลือกใช้คำนั้นจึงแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องที่ต้องการสื่อ เช่น ในเรื่องสั้นเรื่อง 

ผาติกรรม ที่ผู้เขียนนั้นใช้สัทพจน์ คือ การเลียนเสียงธรรมชาติ สร้างให้เกิดภาพ 

ดังตัวอย่าง 

   
“เสียงกึกก้องโหยหวนก็ดังขึ้น ดังราวกับว่าศาลาใหญ่แห่งนี้จะยุบพังลงได้ในทันที เสาใหญ่สี่ต้นบิดเอี๊ยด

โอนเอนอย่างน่ากลัวหน้าบันและจั่วของศาลาทั้งด้านหน้าและด้านหลังสั่นเสียงเปรี๊ยะบิดราวกับมีช้าง

สารหลายเชือก   (ผาติกรรม : ๙๕)


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วาณิช จรุงกิจอนันต์                              

จากตัวอย่างข้างต้นไม่ได้แสดงให้เห็นว่า มีการใช้สัทพจน์

เพียงอย่าเดียว แต่ยังแสดงให้เห็นว่ามีการ

สร้างภาพพจน์แบบอุปมานั้นมาใช้ร่มด้วย 



คุณค่าทางสังคม  สะท้อนภาพสังคมที่แตกต่างกันอย่าง

หลากหลาย ไว้ในเรื่องสั้นเรื่องต่าง ๆ ทั้งด้าน

การเมืองการปกครอง  วิถีชีวิต  การคมนาคมและความเชื่อ 





28 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าเรามีโอกาสที่ได้ทำสิ่งที่เราต้องการ เราก็ควรคว้าเอาไว้ จะได้ไม่รู้สึกเสียดายทีหลัง เป็นเรื่องราวที่กระตุ้นให้เราคิดมากขึ้นว่าจะทำอย่างไรเมื่อได้รับโอกาสนั้น

    ตอบลบ
  2. การสรุปวิเคราะห์นวนิยายเรื่องนี้ได้สอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับเวลาว่ามีค่า ทำให้ผู้อ่านมีความกระตือรือร้นมากขึ้น : นางสาวจริญญา ทาริกานนท์ 601031413 กศ.บ.ภาษาไทย

    ตอบลบ
  3. เป็นการสรุปวิเคราะห์เนื้อหาของนวนิยายที่เห็นภาพ และเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ได้ให้ข้อคิดไว้หลายอย่าง ทำให้เรื่องที่อ่านมีความน่าสนใจมากขึ้นค่ะ

    ตอบลบ
  4. เป็นนิยายเรื่องที่ให้ข้อคิดในการแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวัน และสิ่งสำคัญคือเป็นนิยายที่ให้เห็นภาพและใช้ภาษาที่น่าสนใจทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจมากขึ้น

    ตอบลบ
  5. นิยายเรื่องนี้สะท้อนได้ดีในเรื่องโอกาสที่เรามีในแต่ละวัน ซึ่งถ้าเราไม่ไขว่คว้าโอกาสที่มีมันจะหายไป และเราเองที่จะเป็นฝ่ายเสียใจที่ไม่คว้าโอกาสนั้นมา

    ตอบลบ
  6. ไม่ระบุชื่อ2 ตุลาคม 2561 เวลา 06:50

    ฉันรู้สึกว่าเป็นหนังสือรวมเรื่องสั้นที่ใช้คำได้ไพเราะ สละสลวย และประณีต
    สวยงาม อีกทั้งยังมีการเล่นเสียงเล่นคำ ที่ผู้เขียนนั้นได้เลือกสรรมาเป็นอย่างดี และเป็นนิยายที่ดีอีกเล่มหนึ่งคะ
    นางสาวสิริยากร บุญจริง รหัสนิสิต 611071546
    วิชาเอกเศรษฐศาสตร์
    คณะเศรษฐศาสตร์และบริหาระุรกิจ

    ตอบลบ
  7. นิยายเรื่ิองนี้มีข้อคิดที่ดี สามารถนำไปในใช้และแก้ไข้ในชีวิตและเรื่องที่มีความน่าสนใจใช้
    ภาษาน่าอ่าน และอ่านเข้าใจง่าย

    ตอบลบ
  8. นิยายเรื่องนี้สามารถสะท้อนชีวิตได้ดี เพราะการที่เรานั้นมีโอกาสที่จะสิ่งนั้นได้ แต่กลับเลือกที่จะนิ่งเฉยหรือไม่ทำ จนทำให้โอกาสที่มีนั้นหมดไป แล้วก็กลับมานั่งเสียใจในภายหลังว่าทำไมเราถึงไม่ได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ

    ตอบลบ
  9. เป็นหนังสือที่ยอดเยี่ยมครับ คนเราเมื่อมีโอกาสควรคว้าไว้ตั้งแต่ต้น ไม่ควรปล่อยผ่านจนวันหนึ่งอาจจะไม่มีโอกาสนั้นให้คว้าไว้แล้วมานั่งเสียใจทีหลัง หนังสือเรื่องนี้อาจเตือนสติใครหลายๆคนได้ดีเลยน่ะครับ
    นายธนวัฒน์ มาระเสนา รหัสนิสิต 611071498
    คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ
    วิชาเอกเศรษฐศาตร์

    ตอบลบ
  10. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  11. จากที่ได้อ่านมาแล้วนั่น เป็นหนังสือที่ดีและน่าอ่านผู้สรุปนวนิยายได้อธิบายเนื้อหาที่ดีและสามารถสะท้อนชีวิตของคนเราได้ดี เมื่อมีโอกาสแล้วก็คว้าไว้เลย อย่ามัวรีรออาจจะไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้วก็ได้ เป็นหนังสือที่เตือนสติใครหลายๆคน
    นางสาวตูแวซูไรดา โต๊ะโซ๊ะ 601031021
    วิชาเอกการวัดและประเมินทางการศึกษา

    ตอบลบ
  12. การวิเคราะห์เรื่องวิเคราะห์ได้ดี
    ภาษาที่ใช้เข้าใจง่าย เป็นภาษาที่สละสลวย เป็นคำคล้องจองสามารถดึงดูดผู้อ่านได้ดีมาก
    น.ส.อุบลวรรณ เพชรห้วยลึก วิชาเอกการวัดและประเมินทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ 601031072

    ตอบลบ
  13. นวนิยายเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นภาพทางสังคมที่แตกต่างกัน มีหลายด้าน และมีการใช้คำที่สวยงาม มีการเล่นเสียง สามารถเข้าถึงอารมณ์ได้ดี และยังแสดงถึงความกล้าหาญอีกด้วยค่ะ


    นางสาว กาญจนา ทองทิพย์ รหัสนิสิต 601031003 วิชาเอกการวัดและประเมินทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์

    ตอบลบ
  14. ได้ข้อคิดเลยว่า เราไม่ควรปล่อยโอกาสให้สูญเปล่า เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่า วันข้างจะเกิดอะไรขึ้น
    ชนิดาภา สุทธิกุล 601031473 ศึกษาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ

    ตอบลบ
  15. อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วทำให้เรารู้สึกถึงความสำคัญของโอกาสที่เข้ามาในชีวิตเรา เมื่อเรามีโอกาสทำอะไรสักอย่างเราควรทำโอกาสนั้นให้เต็มที่เพื่อที่เราจะได้ไม่เสียใจในภายหลัง และเราก็ควรขอบคุณโอกาสที่เข้ามาในชีวิตเราเพื่อทำให้เราได้พัฒนาตัวเองมากขึ้น และผู้เขียน เขียนโดยใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายและสามารถนำข้อคิดจากเรื่องมาปรับใช้ได้จริงๆ
    นายสิทธิกร เสียมไหม 601031541 วิชาเอกการวัดและประเมินทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์

    ตอบลบ
  16. เขียนเรื่องย่อมาได้เข้าใจมาก มีส่วนสรุปของตัวละคร และมุมมองในเรื่อง ฉาก และอื่นๆที่สามารถเข้าถึงเรื่องได้ง่ายขึ้น เรื่องย่อก็อ่านแล้วเข้าใจง่ายไม่กำกวม และมีข้อคิดนำมาประใช้
    นางสาว สุลาลัย ขุนแสง
    รัหัสนิสิต611031554
    สาขา เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

    ตอบลบ
  17. ดิฉันรู้สึกว่าเรื่องสั้นที่ใช้คำที่ไพเราะ คำสละสลวยงามและอีกอย่างการเล่นคำได้ดีและวิเคราะห์ได้ดีและใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
    นางสาวซามีมี สาและ
    รหัสนิสิต 611071270
    คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ
    สาขาวิชาเอกการตลาด

    ตอบลบ
  18. จากเรื่องนี้ ทำให้เห็นว่า การที่เรานั้นมีโอกาสที่จะทำสิ่งนั้น แต่กลับเลือกที่จะนิ่งเฉยหรือไม่ทำ จนทำให้โอกาสที่มีนั้นหมดไป แล้วมานั่งเสียใจในภายหลังว่าทำไมเราถึงไม่ได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะทำ เพราะฉะนั้น
    เมื่อมีโอกาสมาเราควรไขว่คว้าไว้
    นายณัฐวุฒิ สุขทอง
    รหัสนิสิต 601031020
    วิชาเอก การวัดและประเมินทางการศึกษา
    คณะศึกษาศาสตร์

    ตอบลบ
  19. เป็นเรื่องเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ จากการอ่านเรื่จากการอ่านเรื่องนี้จากผู้จัดทำ ทำให้เห็นถึงความรู้ ความคิดที่ได้จากการอ่านเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
    เรื่องนี้ เสนอแนวคิดของโอกาสและการไขว่คว้าโอกาส ซึ่งเห็นได้ว่าก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะเสียชีวิต เขามีโอกาสมากมายที่จะเข้าไปทักทายทำความรู้จัก แต่เขากลับปล่อยให้โอกาสนั้นลอยผ่านหน้าไป การนำเสนอเรื่องราวเช่นนี้ตรงกับเจตนารมณ์ที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอแก่นเรื่อง

    นายระพีพัฒน์ รอดทุกข์ 601031209 วิชาเอกคณิตศาสตร์

    ตอบลบ
  20. สรุปได้ดีมากค่ะ ประกอบกับบทวิเคราะหืได้ชัดเจนเข้าใจง่าย ถ้อยคำที่ใช้เขียนสละสลวยและพื้นหลังที่ทำให้เนื้อดูน่าอ่านมากยิ่งงขึ้น เรื่องนี้อ่านแล้วทำให้เราเห็นมุมมองที่แท้จริงของผู้เขียนที่อยากสะท้อนให้ผู้อ่านได้อย่างชัดเจน
    นางสาววาซีละห์ มะเด็ง รหัสนิสิต 601031054 วิชาเอกการวัดและประเมินทางการศึกษา

    ตอบลบ
  21. นวนิยายเรื่องนี้สอนให้รู้จักการใช้โอกาสให้เกิดประโยชน์ที่สุดเพราะคนเรามักไม่เห็นคุณค่าของโอกาส
    นส.พัชรี จันทร์รอด 601031037
    วิชาเอกการวัดและประเมินทางการศึกษา
    คณะศึกษาศาสตร์

    ตอบลบ
  22. สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าอ่านมากครับ ผู้วิเคราะห์ ได้ทำการเขียนขึ้นมาดีมาก มีการใช้คำที่สวยงาม แต่ยังเกิดและยังทำให้เห็นมุมมองของผู้แต่งเรื่องนี้ได้ชัดเจน และบางครั้งโอกาสของคนไม่ได้มีบ่อยๆ

    นายชนะศักดิ์ พลนุ้ย รหัสนิสิต 601031009 คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกการวัดและประเมินทางการศึกษา

    ตอบลบ
  23. เนื้อเรื่องน่าสนใจ ผู้นำเสนอเรียบเรียงเนื้อหาได้ดีมากๆ เรื่องก็สะท้อนด้านต่างๆในสังคมชัดเจน
    #นางสาวธนัชพร ทองสม 601031022 วิชาเอกการวัดและประมินทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์

    ตอบลบ
  24. ผู้สรุปเขียนสรุปมาได้ดี ไม่กำกวม ประกอบกับมีการวิเคราะห์อย่างชัดเจน อ่านแล้วเห็นภาพชัดเจน สามารถนำข้อคิดที่ได้มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
    นางสาวอรทัย แก้วใหญ่
    รหัสนิสิต 611031564
    สสาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

    ตอบลบ
  25. สรุปได้ดีมากค่ะ ประกอบกับบทวิเคราะหืได้ชัดเจนเข้าใจง่าย ถ้อยคำที่ใช้เขียนสละสลวยและพื้นหลังที่ทำให้เนื้อดูน่าอ่านมากยิ่งงขึ้น นางสาวสุพรรณิการ์ ทองมีขวัญ611031553 สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

    ตอบลบ
  26. ชอบเรื่องย่อ อ่านแล้วมีความประทับใจ เนื้อหามีความน่าสนใจอ่านแล้วมีความเศร้าในตอนท้ายที่ ผช คนนั้นได้เห็นผู้หญิงในตอนเธอเสียชีวิตแล้ว
    นางสาวสุภาวดี จันทร์ชู รหัสนิสิต611071114 เอกการบัญชี

    ตอบลบ
  27. จากการอ่านเรืองนี้เขามีโอกาสมากมายที่จะเข้าไปทักทายทำความรู้จัก แต่เขากลับปล่อยให้โอกาสนั้นลอยผ่านหน้าไป
    นายวันอาลีฟ แวมายิ
    รหัสนิสิต611031547
    คณะศึกษาศาสตร์
    สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

    ตอบลบ
  28. เป็นเรื่องสั้นที่น่าอ่านเพราะ มีการบอกแนะนำตัวละคร อุปนิสัย เล่าเรื่องราวที่สามารถเห็นภาพได้ชัดเจน ใช้ถ้อยคำง่าย ไม่กำกวม และสะท้อนด้านต่างๆในสังคมได้ชัดเจน นางสาวณัฐกมล แผ่นทอง รหัสนิสิต611031498 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาเทคโน

    ตอบลบ